คำศัพท์ชนิดการเก็บงาน
VARCHAR (ย่อมาจาก Variable Character Field อ่านว่า วาร์คาร์ หรือ วาร์ชาร์) หมายถึงกลุ่มข้อมูลตัวอักขระที่ไม่สามารถระบุความยาวได้ คำนี้มักใช้เป็นชนิดข้อมูลในระบบจัดการฐานข้อมูล ชนิดข้อมูลประเภท varchar สามารถเก็บข้อมูลตัวอักขระขนาดเท่าใดก็ได้ที่ไม่เกินความยาวที่จำกัดไว้ การจำกัดความยาวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละฐานข้อมูล
TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น
TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ
DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD
SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ
UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ
TINYINTBIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย)
FLOAT[(M,D)] : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต
DOUBLE[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
DECIMAL[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
TIMESTAMP[(M)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8
TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS
YEAR[(2/4)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069
CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ
TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร
BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KBMEDIUM
BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB
MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร
LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร
SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า
ENUM(Enumeration) >> หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่
BINARYระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)
VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ขั้นตอนการติดตั้ง appserv-win32.2.5.9
ดาวน์โหลด appserv-win32.2.5.9 จากเว็บไซต์ http://kitt.kvc.ac.th
ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ appserv-win32-2.5.9 เพื่อทำการติดตั้ง
เข้าสู่ขั้นตอนเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม โดยโปรแกรม AppServ ได้แจกจ่ายในรูปแบบ GNU License หากผู้ติดตั้ง อ่านเงื่อนไขต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว หากยอมรับเงื่อนไขให้กด Next เพื่อเข้าสู่การติดตั้งในขั้นต่อไป แต่หากว่าไม่ยอมรับเงื่อนไข ให้กด Cancel เพื่อออกจากการติดตั้งโปรแกรม AppServ
เข้าสู่ขั้นตอนการเลือกปลายทางที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นปลายทางที่ติดตั้งจะเป็น C:AppServ
หากต้องการเปลี่ยนปลายทางที่ติดตั้ง ให้กด Browse แล้วเลือกปลายทางที่ต้องการ ตามรูปที่ 3 เมื่อเลือกปลายทางเสร็จสิ้น ให้กดปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งขั้นต่อไป
เลือก Package Components ที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นนั้นจะให้เลือกลงทุก Package แต่หากว่าผู้ใช้งาน ต้องการเลือกลงเฉพาะบาง Package ก็สามารถเลือกตามข้อที่ต้องการออก โดยรายละเอียดแต่ละ Package มีดังนี้
- Apache HTTP Server คือ โปรแกรมที่ทำหน้าเป็น Web Server
- MySQL Database คือ โปรแกรมที่ทำหน้าเป็น Database Server
- PHP Hypertext Preprocessor คือ โปรแกรมที่ทำหน้าประมวลผลการทำงานของภาษา PHP
- phpMyAdmin คือ โปรแกรมที่ใช้ในการบริหารจัดการฐานข้อมูล MySQL ผ่านเว็บไซต์
เมื่อทำการเลือก Package ตามรูปที่ 4 เรียบร้อยแล้ว ให้กด Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งต่อไป
กำหนดค่าคอนฟิกของ Apache Web Server มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน คือ Server Name คือช่องสำหรับป้อนข้อมูลชื่อ Web Server ของท่านเช่น www.appservnetwork.com Admin Email คือช่องสำหรับป้อนข้อมูล อีเมล์ผู้ดูแลระบบ เช่น root@appservnetwork.com HTTP Port คือช่องสำหรับระบุ Port ที่จะเรียกใช้งาน Apache Web Server โดยทั่วไปแล้ว Protocol HTTP นั้นจะมีค่าหลักคือ 80 หากว่าท่านต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ Port 80 ก็สามารถแก้ไขได้ หากมีการเปลี่ยนแปลง Port การเข้าใช้งาน Web Server แล้ว ทุกครั้งที่เรียกใช้งานเว็บไซต์ จำเป็นที่ต้องระบุหมายเลข Port ด้วย
กำหนดค่าคอนฟิกของ MySQL Database มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ตามรูปที่ 6 คือ Root Password คือช่องสำหรับป้อน รหัสผ่านการเข้าใช้งานฐานข้อมูลของ Root หรือผู้ดูแลระบบ ทุกครั้งที่เข้าใช้งานฐานข้อมูลในลักษณะที่เป็นผู้ดูแลระบบ ให้ระบุ user คือ root Character Sets ใช้ในการกำหนดค่าระบบภาษาที่ใช้ในการจัดเก็บฐานข้อมูล, เรียงลำดับฐานข้อมูล, Import ฐานข้อมูล, Export ฐานข้อมูล, ติดต่อฐานข้อมูล
สิ้นสุดขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม AppServ สำหรับขั้นตอนสุดท้ายนี้จะมีให้เลือกว่าต้องการสั่งให้มีการรัน Apache และ MySQL ทันทีหรือไม่ จากนั้นกดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม AppServ
ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ appserv-win32-2.5.9 เพื่อทำการติดตั้ง
เข้าสู่ขั้นตอนเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรม โดยโปรแกรม AppServ ได้แจกจ่ายในรูปแบบ GNU License หากผู้ติดตั้ง อ่านเงื่อนไขต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว หากยอมรับเงื่อนไขให้กด Next เพื่อเข้าสู่การติดตั้งในขั้นต่อไป แต่หากว่าไม่ยอมรับเงื่อนไข ให้กด Cancel เพื่อออกจากการติดตั้งโปรแกรม AppServ
เข้าสู่ขั้นตอนการเลือกปลายทางที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นปลายทางที่ติดตั้งจะเป็น C:AppServ
หากต้องการเปลี่ยนปลายทางที่ติดตั้ง ให้กด Browse แล้วเลือกปลายทางที่ต้องการ ตามรูปที่ 3 เมื่อเลือกปลายทางเสร็จสิ้น ให้กดปุ่ม Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งขั้นต่อไป
เลือก Package Components ที่ต้องการติดตั้ง โดยค่าเริ่มต้นนั้นจะให้เลือกลงทุก Package แต่หากว่าผู้ใช้งาน ต้องการเลือกลงเฉพาะบาง Package ก็สามารถเลือกตามข้อที่ต้องการออก โดยรายละเอียดแต่ละ Package มีดังนี้
- Apache HTTP Server คือ โปรแกรมที่ทำหน้าเป็น Web Server
- MySQL Database คือ โปรแกรมที่ทำหน้าเป็น Database Server
- PHP Hypertext Preprocessor คือ โปรแกรมที่ทำหน้าประมวลผลการทำงานของภาษา PHP
- phpMyAdmin คือ โปรแกรมที่ใช้ในการบริหารจัดการฐานข้อมูล MySQL ผ่านเว็บไซต์
เมื่อทำการเลือก Package ตามรูปที่ 4 เรียบร้อยแล้ว ให้กด Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งต่อไป
กำหนดค่าคอนฟิกของ Apache Web Server มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน คือ Server Name คือช่องสำหรับป้อนข้อมูลชื่อ Web Server ของท่านเช่น www.appservnetwork.com Admin Email คือช่องสำหรับป้อนข้อมูล อีเมล์ผู้ดูแลระบบ เช่น root@appservnetwork.com HTTP Port คือช่องสำหรับระบุ Port ที่จะเรียกใช้งาน Apache Web Server โดยทั่วไปแล้ว Protocol HTTP นั้นจะมีค่าหลักคือ 80 หากว่าท่านต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ Port 80 ก็สามารถแก้ไขได้ หากมีการเปลี่ยนแปลง Port การเข้าใช้งาน Web Server แล้ว ทุกครั้งที่เรียกใช้งานเว็บไซต์ จำเป็นที่ต้องระบุหมายเลข Port ด้วย
กำหนดค่าคอนฟิกของ MySQL Database มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ตามรูปที่ 6 คือ Root Password คือช่องสำหรับป้อน รหัสผ่านการเข้าใช้งานฐานข้อมูลของ Root หรือผู้ดูแลระบบ ทุกครั้งที่เข้าใช้งานฐานข้อมูลในลักษณะที่เป็นผู้ดูแลระบบ ให้ระบุ user คือ root Character Sets ใช้ในการกำหนดค่าระบบภาษาที่ใช้ในการจัดเก็บฐานข้อมูล, เรียงลำดับฐานข้อมูล, Import ฐานข้อมูล, Export ฐานข้อมูล, ติดต่อฐานข้อมูล
สิ้นสุดขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม AppServ สำหรับขั้นตอนสุดท้ายนี้จะมีให้เลือกว่าต้องการสั่งให้มีการรัน Apache และ MySQL ทันทีหรือไม่ จากนั้นกดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม AppServ
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
Vocaburaly
1. Database ชุดของข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราวเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นชุดข้อมูล
2. DBMS (data base management system) ซอฟต์แวร์ที่ใช้จัดการฐานข้อมูล ช่วยในการสร้างข้อมูล เพิ่มข้อมูล ลบข้อมูล เรียกใช้ข้อมูล
3. Database Administrators : DBAs บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล
4. Database Developmentโปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล เช่น Microsoft Access หรือ Lotus Approach อนุญาตให้ผู้ใช้พัฒนาฐานข้อมูลตามที่ต้องการได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามระบบผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
5. Data Definition Language : DDL เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)
6. Data Interrogationความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล โดยการใช้ภาษาสอบถาม
7. Graphical and Natural Queriesผู้ใช้ ( และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ) หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์
8. Application Developmentโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สามารถใช้ภาษาโปรแกรมยุคที่สี่ (4GL Programming Language) และสร้างเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์จากโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูล
9 .Data Manipulation Language : DML เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา
10. Subject Area Database : SADB ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง
11. Analytical Databaseเก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้
12. Multidimensional Database ให้การสนับสนุนสำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาก
13. Data Warehouses เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ คลังข้อมูลอาจแบ่งออกเป็นตลาดข้อมูล
14. Distributed Databasesการกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์
15. End User Databasesประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
16. Field) เป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว เป็นต้น
17. Record) จะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
18. Table) จะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย
19. Entity) เป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เอนทิตี้ของระบบ นี้จะประกอบด้วย เอนทิตี้ลูกค้า ใบสั่งซื้อสินค้า และสินค้า
20. InfraStucture Management คือการจัดทำระบบการบริหารงานคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมคุณภาพ
1. Database ชุดของข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราวเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นชุดข้อมูล
2. DBMS (data base management system) ซอฟต์แวร์ที่ใช้จัดการฐานข้อมูล ช่วยในการสร้างข้อมูล เพิ่มข้อมูล ลบข้อมูล เรียกใช้ข้อมูล
3. Database Administrators : DBAs บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล
4. Database Developmentโปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล เช่น Microsoft Access หรือ Lotus Approach อนุญาตให้ผู้ใช้พัฒนาฐานข้อมูลตามที่ต้องการได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามระบบผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
5. Data Definition Language : DDL เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)
6. Data Interrogationความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล โดยการใช้ภาษาสอบถาม
7. Graphical and Natural Queriesผู้ใช้ ( และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ) หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์
8. Application Developmentโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สามารถใช้ภาษาโปรแกรมยุคที่สี่ (4GL Programming Language) และสร้างเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์จากโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูล
9 .Data Manipulation Language : DML เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา
10. Subject Area Database : SADB ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง
11. Analytical Databaseเก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้
12. Multidimensional Database ให้การสนับสนุนสำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาก
13. Data Warehouses เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ คลังข้อมูลอาจแบ่งออกเป็นตลาดข้อมูล
14. Distributed Databasesการกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์
15. End User Databasesประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
16. Field) เป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว เป็นต้น
17. Record) จะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
18. Table) จะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย
19. Entity) เป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เอนทิตี้ของระบบ นี้จะประกอบด้วย เอนทิตี้ลูกค้า ใบสั่งซื้อสินค้า และสินค้า
20. InfraStucture Management คือการจัดทำระบบการบริหารงานคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมคุณภาพ
วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552
1. access แอตเซส โปรมมอกรมใช้งานด้านฐานข้อมูล
2. controller เคินทโรเลอะ ผู้ควบคุมเครื่องมืออัตโนมัต
3. becomes บิคัม กลายเป็น
4. ringht ไรท ข้างขวา
5. problem พราบเลิม ปัญหา , อุปสรรค์
6. bucket บังคิม ถัง
7.static ซแตทิค ไฟฟ้าสถิต
8. expensive อิคชเป็นชิฟว มีราคาสูง
9. package แพคิจ หีบห่อ
10 board โบร ไม้กระดาษ
11. dynamic ไดนามิค เป็นพลังงานหรือแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่
12. between เพอะทวีน อยู่ระหว่าง, คั่น
13. rate เรท ตำหนิ , ด่าว่า
14. cache แคณ สิ่งที่ชุกซ่อน
15. original เอะริเจินนอ แรกเริ่ม
16. a bout อะเบ้าท เวลาหนึ่ง
17. staying ซเตริงเพราะเออะ ความสามรถในการอดทน
18. need นีด ต้องการ
19. graphics กแรฟิคช วิธีการทำผังหรือการพิมพ์เขียว
20. Instatt อินสตอ ติดตั้ง
21. Random แรนดอม การวางแผน
22. ypgrade อัพเกรด ยกระดับ
23. system ซิเตม ระบบ
24. bist บิท หน่วยความจำคอมพิวเตอร์
25 running รันนิ่ง วิ่ง
26. data ดาต้า ข้อมูล
27. order ออเดะ ระเบียบการ
28. chip ชิป ตัดออก
29. battery แบตเตอรี่ แบต
30. before บีฟอ ก่อน
31. charge ซารด สั่งการ
32. notebook โน๊ตบุค สมุด
33. idea ไอเดีย ความคิด
34. application แอฟฟิเคชั่น สมัค
35. per พาย อาสัย
36. least ลาชส น้อนที่สุด
37. read รีส อ่าน
38. memory เมมโมรีส หน่วยความจำ
39. know โน รู้
40 work เวอค งาน
41. speed สปีด ความเร็ว
42. easy อีซี ง่าย
43. parity แพริตี เท่าเทียม
44.Introduction อินทเรอะดัคเณิน การแนะนำ
45. Cassette เคอะเช็ท ม้วนหรือตลับฟิลม์หรือแถบเสียงแม่เหล็ก
46. microprocesessor เมคโรพราเชอะ เครื่องประมวลผลกลางคอมพิวเตอร์ ตั้งโ
47 Hardware ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้พวกโลหะคอมพิวเตอร์
48. network เน็ทเวิรค เครือข่าย
49 follwing ฟาโลอิง ที่ติดตาม
50. normally นอรเมอะลิ โดยทั่วไป
2. controller เคินทโรเลอะ ผู้ควบคุมเครื่องมืออัตโนมัต
3. becomes บิคัม กลายเป็น
4. ringht ไรท ข้างขวา
5. problem พราบเลิม ปัญหา , อุปสรรค์
6. bucket บังคิม ถัง
7.static ซแตทิค ไฟฟ้าสถิต
8. expensive อิคชเป็นชิฟว มีราคาสูง
9. package แพคิจ หีบห่อ
10 board โบร ไม้กระดาษ
11. dynamic ไดนามิค เป็นพลังงานหรือแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่
12. between เพอะทวีน อยู่ระหว่าง, คั่น
13. rate เรท ตำหนิ , ด่าว่า
14. cache แคณ สิ่งที่ชุกซ่อน
15. original เอะริเจินนอ แรกเริ่ม
16. a bout อะเบ้าท เวลาหนึ่ง
17. staying ซเตริงเพราะเออะ ความสามรถในการอดทน
18. need นีด ต้องการ
19. graphics กแรฟิคช วิธีการทำผังหรือการพิมพ์เขียว
20. Instatt อินสตอ ติดตั้ง
21. Random แรนดอม การวางแผน
22. ypgrade อัพเกรด ยกระดับ
23. system ซิเตม ระบบ
24. bist บิท หน่วยความจำคอมพิวเตอร์
25 running รันนิ่ง วิ่ง
26. data ดาต้า ข้อมูล
27. order ออเดะ ระเบียบการ
28. chip ชิป ตัดออก
29. battery แบตเตอรี่ แบต
30. before บีฟอ ก่อน
31. charge ซารด สั่งการ
32. notebook โน๊ตบุค สมุด
33. idea ไอเดีย ความคิด
34. application แอฟฟิเคชั่น สมัค
35. per พาย อาสัย
36. least ลาชส น้อนที่สุด
37. read รีส อ่าน
38. memory เมมโมรีส หน่วยความจำ
39. know โน รู้
40 work เวอค งาน
41. speed สปีด ความเร็ว
42. easy อีซี ง่าย
43. parity แพริตี เท่าเทียม
44.Introduction อินทเรอะดัคเณิน การแนะนำ
45. Cassette เคอะเช็ท ม้วนหรือตลับฟิลม์หรือแถบเสียงแม่เหล็ก
46. microprocesessor เมคโรพราเชอะ เครื่องประมวลผลกลางคอมพิวเตอร์ ตั้งโ
47 Hardware ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้พวกโลหะคอมพิวเตอร์
48. network เน็ทเวิรค เครือข่าย
49 follwing ฟาโลอิง ที่ติดตาม
50. normally นอรเมอะลิ โดยทั่วไป
วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552
แบบฝึกหัดบทที่ 6
13. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของส่วนและปุ่มต่าง ๆ
1. คือ เฟรม ที่ใช้แสดงลำดับภาพนิ่งแต่ละส่วน
2. คือ ตัวกำหนดเวลาในการแสดงผล
3. คือ ปุ่มควบคุมการวนซ้ำ ถ้า Forever คือวนรอบไปเรื่อย ๆ ถ้าวนรอบ 1 รอบใช้ Once
4. คือ ปุ่มควบคุม ที่ใช้แสดงตัวอย่างของภาพ Animation หรือจะกระโดดไปที่เฟรมอื่น ๆ ตามสที่ต้องการก็ได้
5. คือ ปุ่มสร้างภาพ Animation อย่างต่อเนื่อง ที่โปรแกรมคำนวณอยู่ระหว่างเฟรมเริ่มต้นและเฟรมสุดท้าย
6. คือ ปุ่มสร้างเฟรมใหม่ ซึ่งจะใช้เมื่อต้องการสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ ๆ เข้าไป
7. คือ ปุ่มลบเฟรม เอาไว้ลบเฟรมที่ไม่ต้องการทิ้งไป
14. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรเคลื่อนไหวแบบ Fade
1. เปิดไพล์ภาพขึ้นมา โดยไปที่เมนู File ->Opne -> จากนั้นไปเลือกชื่อไพล์ที่ต้องการเปิดและคลิก Opne
2. กำหนดขนาดของภาพให้มีขนาดความกว้าง 444 pixels จากนั้นไปเปิดไพล์อื่นออกมาอีก 3 ไพล์และคัดลอกมาไว้ที่ไพล์นี้
3. ไปเปิดที่เมนู Windows --->Animation และทำการ Duplicates Select Frames ขึ้นมาอีก 3 เฟรม
4. กด เพื่อเลือก frames ทั้งหมด จากนั้นตั้งเวลาโดยไปคลิกที่ปุ่มเฟรมสุดท้าย
5. จากนั้นคลิกที่เฟรมที่ 1 และคลิกเลเยอร์ให้แสดงเฉพาะอันแรก
6. เฟรมที่ 2 ให้คลิกเลือกเลเยอร์แรกกับเลเยอร์ที่ 2
7. กำหนดเฟรมที่ 1 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 1 จากนั้นไปเลือกที่เครื่องมือ Tweens Animation Framesเพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวณเฟรมเพิ่มขึ้นอีก 7 เฟรม แล้วตอบ OK
8. กำหนดเฟรมที่ 2 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 2 จากนั้นไปที่เครื่องมือ Tweens Animation Framesเพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวณเฟรมเพิ่มอีก 4 เฟรม แล้วตอบ OK
9. กำหนดเฟรมที่ 3 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 3 จากนั้นไปที่เครื่องมือ Tweens Animation Framesเพื่อกำนหดให้แสดงผลและกำนหดจำนวณเฟรมเพิ่มอีก 9 เฟรม แล้วตอบ OK
10. กำหนดเฟรมที่ 4 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 4 จากนั้นไปที่เครื่องมือ Tweens Animation Framesเพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวณเฟรมเพิ่มอีก 3 เฟรม แล้วตอบ OK
15. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้าง Gallrey ภาพถ่ายให้กับเว็บไซต์
1. สร้างโฟลดอร์ไว้สำหรับเก็บไพล์ที่ต้องการ
2. สร้างไพล์ขนาด 400 pixels * 300 pixels แล้วเก็บไว้ในโฟลเดอร์ดังกล่าว
3. ไปที่เมนู File -->Automate -->Wed Photo Gallery จะปรากฏหน้าจอ
4.เลือกรูปแบบหรือสไตล์ที่ชอบ คลิกเลือกปุ่มโฟลเดอร์แหล่งของภาพที่สร้างไว้ คลิกเลือกเส้นทางที่จะเก็บงานที่ส้รางGallery เลือกคุณสมบัติของภาพ แล้วตอบ OK จะได้ภาพที่ต้องการในรูปแบบ html
แบบฝึกหัดบทที่ 5
1. ให้นักศึกษาอธิบายการสร้างปุ่มและอักษร 3 มิติ
1. สร้างไพล์ขึ้นมาใหม่โดยไปที่เมนู File-->New จากนั้นกำหนดขนาดความกว้าง 300 pixelsความสูง 135 pixels และความละเอียด 72 pixels/inch ชนิดเป็น RGB Corol พื้นเป็น Whiteแล้วคลิกปุ่ม OK
2. เลือกเครื่องมือ rectangular tool แดรกเมาส์ตีกรอบสี่เหลี่ยม
3. ไปเลือกเครื่องมือ Gradient tool เลือกรายละเอียดรูปแบบการแสดงผล และ สี โดยเลือกสีเหลืองแล้วไล่เฉดจากเหลืองเข้มไปหาสีขาว จากนั้นไปแดรกเมาส์จากซ้ายมาขวา
4. ย่อเส้นปะเข้ามาอีก 10 จุด โดยไปที่เมนู Select-->Modify-->Contract ใส่ตัวเลข 10 pixelsแล้วกดปุ่ม OK
5. แดรกเมาส์จากด้านขาวมาด้านซ้าย ทำการยกเลิกการเลือกโดยไปที่ Select-->Deselect
6. ไปที่เครื่องมือ Type tool เลือกสี fore ground สี แดง แล้วมาคลิกในปุ่มเพื่อพิมพ์ข้อความมว่า 3Dและย้ายข้อความมาไว้ตรงกลาง โดยเลือกชนิดอักษร Arial Black ขนาด 79 pt และเลือกสีเป็นสีแดง
7. ไปที่เมนู Layer-->Type-->Convert to Shape จะปรากฏกรอบรอบข้อความ จากนั้นไปที่เมนูEdit-->Transform-->Perspective ดแรกเมาส์ที่มุมเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นรูปทรงที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Enter เมื่อได้ภาพที่ต้องการ
8. ทำอักษรให้นูน โดยไปที่เมนู Layer-->Layer Style-->bevet and Emboss
9. จากนั้นจะปรากฏรายละเอียดต่าง ๆ ให้เลือก ลองเลือกคลิก [/] เพื่อดูรูปแบบการแสดงผลแบบต่าง ๆและเลือกสีตามต้องการ
10. เลือกเสร็จกด OK
2. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรลำแสง
1. สร้างไพล์ใหม่ขนาด 500 pixels * 350 pixels และความละเอียด 100 pixels/inchและขึ้นเป็นสีขาว
2. เลือกเครื่องมือ Paint tool เทสีดำลงในเลเยอร์ Background และไปที่เครื่องมือ Type toolเลือกฟอนต์ Arial ตัวหนาขนาด 29 pt สีขาว แล้วพิมพ์ข้อความว่า KITTKHAN
3. กดคีย์บอร์ด [Ctrl+J] เพื่อ Duplicate Layers จากนั้นเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ Layers kittkhancopy ให้เป็นสีดำ ทำการซ่อน Layers Layer kittkhan copy จากนั้นคลิกรวมเลเยอร์ Backgroundและ layer kittkhan copy [Ctrl + E รวมเลเยอร์]
4. ไปที่เมนู Filter-->Stylize-->Wind แล้วเลือก [/]Wind และ [/]From the Right
5. กดคีย์บอร์ด [Ctri+J] เพื่อ Dsuplicate layers แล้วไปที่เมนู Filter-->Stylize-->Windแล้วเลือก [/]Wind และ [/]From the Left ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำหัวข้อแบบลำแสงกระจายทั้งสองด้าน
12.ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของเครื่องมือต่อไปนี้
1. Link layer คือการเชื่อมโยง layer
2. Add a layer Style คือส่วนที่ใส่ Effect เช่น แสง เงา
3. Add a mask คือส่วนที่ใช้เพิ่มเติม Mask หรือ เพิ่ม 1 layer
4. Create new fill or adjustment layer คือส่วนที่ใช้ปรับค่าสี ความคมชัด แสงและความสว่าง
5. Create a new group คือส่วนที่ใช้กระดาษทำการใหม่ โดยคัดลอกภาพจากลำดับทาชี้อยู่
6. Create a new layer คือใช้สำหรับสร้าง layer ใหม่7. Delete layer คือใช้สำหรับลบ layer
ส่งงานบทที่ 4
แบบฝึกหัด บทที่ 4
(10.) ให้นักศึกษาบอกข้อดีของ Adobe PhotoshopCS3 พร้อมอธิบายคำตอบ พัฒนาการในการตกแต่งภาพ และออกแบบงานกราฟิก Adobe นับเป็นบริษัทหนึ่งที่พัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง Adobe PhotoshopCS3 ถือว่าเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมยุคดิจิทอล สังคมที่หลากหลายมิติ
(11.)ให้นักศึกษาหาความหมายของเครื่องมือใน Adobe PhotoshopCS3 พร้อมอธิบาย
1.Move Tool ใช้ในการเลื่อน Layer และ Guide ต่างๆ
2.Marquee Tool ใช้ในการเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม ฯลน
3.Lasso Tool ใช้ในการเลือกแบบอิสระ
4.Magic Wand Tool ใช้ในการเลือกโดยอาศัยความสว่าง
5.Crop Tool ใช้ในการเลือกบางส่วนของรูปภาพ
6.Slice tool ใช้ในการสร้าง Slice หรือรูปย่อยๆ
7.Healing brush Tool ใช้ในการระบายสี ซ่อมแซมรูปภาพให้สมบูรณ์
8. brush Tool ใช้ในการวาดเส้น
9.Clone Stamp Tool ใชัในการคัดลอกโดยอาศัยรูปภาพต้นฉบับ
10.History Bruch Tool ใช้ในการคืนรูปภาพเดิมจาก State ของรูปเดียวกัน
11.Eraser Tool ใช้ในการลบรูปภาพหรือลบบางส่วน
12.Paint Bucket Tool ใช้ในการเติมสี Fill ในบริเวณที่เป็นสีเดียวกัน
13.Smudge tool ใช้ในการดึงสีให้ไปใกล้เคียงกัน
14.Burn tool ใช้ลดความสว่าง ทำให้ภาพดูมมืดลง
15.Pen tools ใช้ในการลากเส้น path ซึ่งสามารถดัดโค้งตามรูปภาพได้
16.type tool ใช้ในการพิมพ์ตัวอักษร
17.Path Selection Path ใช้เพื่อเลือก Shape หรือ Path เพื่อแสดง Anchor Paint
18.Castom Shape tool ใช้เลือกรูปภาพ เลือกรูปภาพที่มีรูปร่างเฉพาะ
19.Animations tool ใช้เขียนโน้ต หรือแนบเสียงไปกับรูปภาพได้
20.Eyedropper tool ใช้ในการดูดสีจากรูปภาพเพื่อใช้เป็นต้นแบบของสีกับงานชิ้นอื่นๆ
21.Hand tool ใช้เลื่อนภาพที่อยู่หน้าต่างเดียวกัน
22.Zoom tool ใช้ย่อ-ขยายภาพ
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552
- การทำส่วนหัวตัวอักษรลำแสง
1 ไปที่เมนู File
2. ไปที่ new แล้วเลือก width 1010 Pixels Heighr 135 pixels Resolution 100
3. ไปที่ set forgreuf colur แล้วเลือกที่ต้องการ แล้ว ok
4. คลิกที่ Paint Bueket Tool แล้วคลิกที่พื้นที่สี่เหลี่ยมพื่อเทสี
5. คลิกที่ Type Tool เพื่อพิมพ์ข้อความ
6. กด ctrt+J แล้วกด ctrl +e เพื่อรวมเลเยอร์ กด Enter
7. จากนั้นแทรกรูปภาพ ที่เราต้องการ
8.ไปที่ File
9. ไปที่Open แล้วเลือกรูปที่เราต้องการเพิ่ม
10. ไปที่เมนู Move Tool เพื่อดึงรุปไปไส่ในแบรนเนอร์
11. ไปที่เมนู Edit
12. ไปที่เมนู Transfoer
13. ไปที่ Scale แล้วย่อขนาดให้พอดี แล้ว Entre
14. จากนั้นเพิ่มรูปนก
15. แล้วไปที่ Cuetemshase Tool แล้วเลือกรูปนก
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552
- การAdobe Photoshop cs3.zip
1.ดับเบิลคลิกที่ดาวโหล Adobe photoshop cs3.zip
2. คลิกเพื่อต้องการ save
3. เลือกโฟรเดอร์ที่เราต้องการ save เลือกคลิกsave
4. จากนั้นต้องการโหลด รอสักครู่
5. หลักจากโปรแกรมโหลดเสร็จแล้ว คลิก Open Foder
6. คลิกที่โปรแกรม Adober Phoshop
7 คลิก Exract Hler เพื่อทำการแตกไฟล์
8. จากนั้นรอสักครู่
9. ดับเบิลคลิกเพื่อติดตั้ง
10 คลิก NEXT
11. คลิก Finsh
12. Next
13. คลิก Finish
2. คลิกเพื่อต้องการ save
3. เลือกโฟรเดอร์ที่เราต้องการ save เลือกคลิกsave
4. จากนั้นต้องการโหลด รอสักครู่
5. หลักจากโปรแกรมโหลดเสร็จแล้ว คลิก Open Foder
6. คลิกที่โปรแกรม Adober Phoshop
7 คลิก Exract Hler เพื่อทำการแตกไฟล์
8. จากนั้นรอสักครู่
9. ดับเบิลคลิกเพื่อติดตั้ง
10 คลิก NEXT
11. คลิก Finsh
12. Next
13. คลิก Finish
วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
*การลงโปรมแกรมป้องกันไวรัส*
การถอนnod32v.4
1.คลิก start
2.คลิก contropanel จะขึ้นหน้าต่าง add or rmp
3.เลือก ESET NOD32 Antivirus Setp เลือกตัวไหนก็ได้
4.คลิก next
5. คลิก Romove เพื่อที่จะถอนออกจากคอมพิวเตอร์
6.แล้วเลือก Prom File เพื่อที่จะดู
วิธีการติดตั้ง ESET NOD32v.4
1.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ eav not32enu.
2.คลิก Next
3.เลือก I accept
4. คลิก Next
5.Insstallallation mod
6.ติดตั้งแบบ Typical
7.คลิก next
8. คลิก Enable
9. คลิก next
10. Insall เพื่อเริ่มติดตั้ง
11. คลิก next
12. คลิก next
13. คลิก next
14. คลิก next
ไม่รู้ว่าสมบูรณ์ไหมอาจารย์ได้แค่นี้จริงค่ะๆ
1.คลิก start
2.คลิก contropanel จะขึ้นหน้าต่าง add or rmp
3.เลือก ESET NOD32 Antivirus Setp เลือกตัวไหนก็ได้
4.คลิก next
5. คลิก Romove เพื่อที่จะถอนออกจากคอมพิวเตอร์
6.แล้วเลือก Prom File เพื่อที่จะดู
วิธีการติดตั้ง ESET NOD32v.4
1.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ eav not32enu.
2.คลิก Next
3.เลือก I accept
4. คลิก Next
5.Insstallallation mod
6.ติดตั้งแบบ Typical
7.คลิก next
8. คลิก Enable
9. คลิก next
10. Insall เพื่อเริ่มติดตั้ง
11. คลิก next
12. คลิก next
13. คลิก next
14. คลิก next
ไม่รู้ว่าสมบูรณ์ไหมอาจารย์ได้แค่นี้จริงค่ะๆ
วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การลงวิโดว์
การลงวินโดวส์ใหมก็มีวิธีดังนี้
1. เปิดเครื่อง สั่ง BIOS ให้ boot จาก CD-ROM (boot from CD-ROMอันดับแรก)หลังจาก save BIOS และ exit กดEnterแล้วเครื่องจะ restart
2. ใส่ แผ่น windows XP เข้าไปใน CD-ROM Drive
3. จะพบข้อความ press any key to boot from CD.. ให้กดปุ่ม Enterเพื่อ boot เครื่องจาก CD-ROM Widows XP
4. จะมีการ copy ไฟล์หรือข้อมูลบางส่วน ให้คุณรอไปก่อน
5. เมื่อพบหน้าต่าง welcome to setup ให้เริ่มติดตั้งได้ทันทีโดยกดปุ่ม Enter เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
6. จะปรากฏข้อความเกี่ยวกับการใช้งาน windows XP (หน้าจอเขียนว่า Windows XP Licensing)ให้กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับรายละเอียดดังกล่าว
7. พอมาถึงขั้นตอนนี้ จะเป็นการเลือกติดตั้ง Windows XP ลงใน partition ใดคุณจะพบคำสั่งให้เลือก 3 แบบคือ-ติดตั้งใน partition ที่เลือกไว้ ให้ กด Enter-สร้าง partition ใหม่กด C-ลบ partition นั้นกด Dผมสมมติว่าคุณจะเลือกลงใน partition ที่เลือกไว้คือ Drive C นะให้คุณกด Enter เพื่อติดตั้งที่ Drive C
8. เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการ โดยกดปุ่มลูกศรขึ้นลง หลังจากนั้นกด Enter
9. ปรากฏหน้าจอให้ format (to continue and format the partition ,press Enter) ให้กด Enter1
0. Windows จะเริ่ม format
11. หลังจาก format แล้วมันก็จะ copy ข้อมูลลงใน HDD
12. หลังจากนั้นปรากฏหน้าจอ This partition of setup has completed……ให้กดปุ่ม Enter เพื่อ restart เครื่อง
13. หลังจากเครื่องเริ่ม restart อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกว่าจะขึ้นหน้าจอ Windows XP Professional
14. จะเห็นวินโดว์ตรวจสอบค่าต่างๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีอะไรของมันไปตามเรื่องคุณก็อ่านเล่นๆ ไปพลางๆ ก่อนได้
15. รอสักหน่อยก็จะปรากฏหน้าต่าง Regional and language Option ออกมา คลิ๊กที่แท็บ Customize
16. คลิ๊กที่แท็บ languages
17. คลิ๊กถูกที่ข้อความ install files for complex scipt….แล้วตอบ OKและคลิ๊กถูกที่ install files for East Asian language แล้วตอบ OK
18. จากนั้น คลิ๊กที่แท็บ advanced
19. เลือกภาษาไทย แล้วกด Apply เครื่องจะ copy ไฟล์ font ภาษาไทย (ขั้นตอนนี้ใจเย็นรอสักครู่)
20. หลังจากนั้นคลิ๊กที่แท็บ regional option แล้วเลือกไทย location ก็เลือกเป็น Thailand
21. คลิ๊ก next
22. จะปรากฏหน้าต่าง personalize Your softwareให้คุณตั้งชื่อตามใจที่คุณต้องการ ส่วนช่อง Organization เลือกพิมพ์เป็นอะไรก็ได้
23. คลิ๊ก next
24. กรอกหมายเลขแผ่น windows XP ซึ่งมี 25 ตัว
25. คลิ๊ก next
26. กรอกชื่อ computer ของคุณ ที่ช่อง computer name
27. ตั้ง password หรือไม่ตั้งก็ได้ตามใจ
28. คลิ๊ก next
29. ตั้งวันที่ให้ตรง ที่ time zone เลือก GMT +7 Bangkok,Hanoi,Jakata
30. คลิ๊ก next
31. เลือการติดตั้งแบบ Typical
32. คลิ๊ก next
33. กรอกข้อมูลเครือข่ายกรณีที่คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใส่ชื่อเครือข่ายของคุณถ้าคุณมี modem มันก็ให้คุณ set ค่าต่างๆ ขณะนั้นเลย คุณก็กรอกไป
34. คลิ๊ก next และรอต่อไปจนกระทั่งมัน restart ใหม่
35. อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกระทั่งมันขึ้น logo Windows Xp professional
36. ถ้าเครื่องคุณเป็น VGA on Board มันก็จะปรับขนาดจอภาพให้คุณจนขึ้นมองได้ชัดเจนแล้วให้กด OKแต่ถ้าเป็น VGA ต่างหากมันจะข้ามขั้นตอนนี้ไป
37. จะปรากฏหน้าจอ Welcome to………. .ให้คุณคลิ๊ก next ด้านล่างขวา
38. หากคุณต่อ internet มันจะเชื่อมต่อ internet เพื่อ updateแนะนำว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยโดยคลิ๊กที่ skip ซึ่งอยู่ด้านล่างขวา
39. จะปรากฏหน้าจอ ready to register with ….. ให้คุณเลือก No, not this time
40. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
41. จะปรากฏหน้าจอ who will use this computer? ให้คุณกรอกชื่อผู้ใช้ซึ่งมีให้กรอก 5 usersแต่คุณกรอกชื่อเดียวได้โดยชื่อนั้นห้ามซ้ำกับชื่อเครื่องที่คุณตั้งไว้ในข้อ 26
42. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
43. คลิ๊ก finish ด้านล่างขวา เป็นอันเสร็จ
44. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอใช้งานเป็นรูปทุ่งหญ้าวิวมี เมฆ ถ้าจำไม่ผิดจะมี icon ตัวเดียวคือ recycle bin อยู่ที่มุมล่างขวา คุณสามารถเพิ่ม icon ใช้งานอื่นๆได้โดย คลิ๊กขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก properties แล้วคลิ๊กที่แท็บ Desktopแล้วคลิ๊ก Customize Desktop (อยู่ใกล้ๆ ปุ่ม OK) จะปรากฏหน้าต่างDesktop Itemที่แท็บ General ให้คุณคลิ๊กถูกที่ Desktop icon ที่คุณต้องการโชว์บนหน้า Desktopหลังจากนั้นคลิ๊ก OK เป็นอันเรียบร้อยหากซีพียูของคุณมีความเร็ว 700 เมกะเฮิร์ตขึ้นไป และมีหน่วยความจำอย่างน้อย 256 เมกะไบต์(แน่ะนำ 256 เมกะไบต์ขึ้นไปยิ่งดีมากๆๆๆๆๆ) ฮาร์ดดิสก์ 20 กิกะไบต์ขึ้นไปไดรฟ์ซีดีรอม 24X ขึ้นไป การ์ดจอก็ควรจะมีหน่วยความจำสัก 64 เมกะไบต์จะให้ดีเป็นการ์ดจอแบบ AGP 4X ,8Xด้วยล่ะก็ เยี่ยม!โมเด็ม Soft V92 จะให้ดีไปกว่านั้นก็การ์ดเสียง PCI ลำโพงดีๆ สักคู่ ( นะจะบอกให้ๆๆๆๆๆๆๆๆ.........)
1. เปิดเครื่อง สั่ง BIOS ให้ boot จาก CD-ROM (boot from CD-ROMอันดับแรก)หลังจาก save BIOS และ exit กดEnterแล้วเครื่องจะ restart
2. ใส่ แผ่น windows XP เข้าไปใน CD-ROM Drive
3. จะพบข้อความ press any key to boot from CD.. ให้กดปุ่ม Enterเพื่อ boot เครื่องจาก CD-ROM Widows XP
4. จะมีการ copy ไฟล์หรือข้อมูลบางส่วน ให้คุณรอไปก่อน
5. เมื่อพบหน้าต่าง welcome to setup ให้เริ่มติดตั้งได้ทันทีโดยกดปุ่ม Enter เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
6. จะปรากฏข้อความเกี่ยวกับการใช้งาน windows XP (หน้าจอเขียนว่า Windows XP Licensing)ให้กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับรายละเอียดดังกล่าว
7. พอมาถึงขั้นตอนนี้ จะเป็นการเลือกติดตั้ง Windows XP ลงใน partition ใดคุณจะพบคำสั่งให้เลือก 3 แบบคือ-ติดตั้งใน partition ที่เลือกไว้ ให้ กด Enter-สร้าง partition ใหม่กด C-ลบ partition นั้นกด Dผมสมมติว่าคุณจะเลือกลงใน partition ที่เลือกไว้คือ Drive C นะให้คุณกด Enter เพื่อติดตั้งที่ Drive C
8. เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการ โดยกดปุ่มลูกศรขึ้นลง หลังจากนั้นกด Enter
9. ปรากฏหน้าจอให้ format (to continue and format the partition ,press Enter) ให้กด Enter1
0. Windows จะเริ่ม format
11. หลังจาก format แล้วมันก็จะ copy ข้อมูลลงใน HDD
12. หลังจากนั้นปรากฏหน้าจอ This partition of setup has completed……ให้กดปุ่ม Enter เพื่อ restart เครื่อง
13. หลังจากเครื่องเริ่ม restart อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกว่าจะขึ้นหน้าจอ Windows XP Professional
14. จะเห็นวินโดว์ตรวจสอบค่าต่างๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีอะไรของมันไปตามเรื่องคุณก็อ่านเล่นๆ ไปพลางๆ ก่อนได้
15. รอสักหน่อยก็จะปรากฏหน้าต่าง Regional and language Option ออกมา คลิ๊กที่แท็บ Customize
16. คลิ๊กที่แท็บ languages
17. คลิ๊กถูกที่ข้อความ install files for complex scipt….แล้วตอบ OKและคลิ๊กถูกที่ install files for East Asian language แล้วตอบ OK
18. จากนั้น คลิ๊กที่แท็บ advanced
19. เลือกภาษาไทย แล้วกด Apply เครื่องจะ copy ไฟล์ font ภาษาไทย (ขั้นตอนนี้ใจเย็นรอสักครู่)
20. หลังจากนั้นคลิ๊กที่แท็บ regional option แล้วเลือกไทย location ก็เลือกเป็น Thailand
21. คลิ๊ก next
22. จะปรากฏหน้าต่าง personalize Your softwareให้คุณตั้งชื่อตามใจที่คุณต้องการ ส่วนช่อง Organization เลือกพิมพ์เป็นอะไรก็ได้
23. คลิ๊ก next
24. กรอกหมายเลขแผ่น windows XP ซึ่งมี 25 ตัว
25. คลิ๊ก next
26. กรอกชื่อ computer ของคุณ ที่ช่อง computer name
27. ตั้ง password หรือไม่ตั้งก็ได้ตามใจ
28. คลิ๊ก next
29. ตั้งวันที่ให้ตรง ที่ time zone เลือก GMT +7 Bangkok,Hanoi,Jakata
30. คลิ๊ก next
31. เลือการติดตั้งแบบ Typical
32. คลิ๊ก next
33. กรอกข้อมูลเครือข่ายกรณีที่คุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใส่ชื่อเครือข่ายของคุณถ้าคุณมี modem มันก็ให้คุณ set ค่าต่างๆ ขณะนั้นเลย คุณก็กรอกไป
34. คลิ๊ก next และรอต่อไปจนกระทั่งมัน restart ใหม่
35. อย่ากดปุ่มใดๆ ให้รอจนกระทั่งมันขึ้น logo Windows Xp professional
36. ถ้าเครื่องคุณเป็น VGA on Board มันก็จะปรับขนาดจอภาพให้คุณจนขึ้นมองได้ชัดเจนแล้วให้กด OKแต่ถ้าเป็น VGA ต่างหากมันจะข้ามขั้นตอนนี้ไป
37. จะปรากฏหน้าจอ Welcome to………. .ให้คุณคลิ๊ก next ด้านล่างขวา
38. หากคุณต่อ internet มันจะเชื่อมต่อ internet เพื่อ updateแนะนำว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยโดยคลิ๊กที่ skip ซึ่งอยู่ด้านล่างขวา
39. จะปรากฏหน้าจอ ready to register with ….. ให้คุณเลือก No, not this time
40. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
41. จะปรากฏหน้าจอ who will use this computer? ให้คุณกรอกชื่อผู้ใช้ซึ่งมีให้กรอก 5 usersแต่คุณกรอกชื่อเดียวได้โดยชื่อนั้นห้ามซ้ำกับชื่อเครื่องที่คุณตั้งไว้ในข้อ 26
42. คลิ๊ก next ด้านล่างขวา
43. คลิ๊ก finish ด้านล่างขวา เป็นอันเสร็จ
44. หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าจอใช้งานเป็นรูปทุ่งหญ้าวิวมี เมฆ ถ้าจำไม่ผิดจะมี icon ตัวเดียวคือ recycle bin อยู่ที่มุมล่างขวา คุณสามารถเพิ่ม icon ใช้งานอื่นๆได้โดย คลิ๊กขวาบริเวณพื้นที่ว่างเลือก properties แล้วคลิ๊กที่แท็บ Desktopแล้วคลิ๊ก Customize Desktop (อยู่ใกล้ๆ ปุ่ม OK) จะปรากฏหน้าต่างDesktop Itemที่แท็บ General ให้คุณคลิ๊กถูกที่ Desktop icon ที่คุณต้องการโชว์บนหน้า Desktopหลังจากนั้นคลิ๊ก OK เป็นอันเรียบร้อยหากซีพียูของคุณมีความเร็ว 700 เมกะเฮิร์ตขึ้นไป และมีหน่วยความจำอย่างน้อย 256 เมกะไบต์(แน่ะนำ 256 เมกะไบต์ขึ้นไปยิ่งดีมากๆๆๆๆๆ) ฮาร์ดดิสก์ 20 กิกะไบต์ขึ้นไปไดรฟ์ซีดีรอม 24X ขึ้นไป การ์ดจอก็ควรจะมีหน่วยความจำสัก 64 เมกะไบต์จะให้ดีเป็นการ์ดจอแบบ AGP 4X ,8Xด้วยล่ะก็ เยี่ยม!โมเด็ม Soft V92 จะให้ดีไปกว่านั้นก็การ์ดเสียง PCI ลำโพงดีๆ สักคู่ ( นะจะบอกให้ๆๆๆๆๆๆๆๆ.........)
วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นางสาววัชราภรณ์ หงษ์คำเมือง
ชื่อเล่น มด
ที่อยู่ 5/12 บ.เข็ง ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม 44160
เกิดวันที่ 9 สิงหาคม 2533
เบอร์โทร 0823023836
อีเมล์ mod_113@thaimail.com
สี่ชอบ เขียว
อาหารที่ชอบ ส้มตำ
สัตว์เลี่ยงที่ชอบ ปลา
งานอดิเรก ฟังเพลง
ชื่อเล่น มด
ที่อยู่ 5/12 บ.เข็ง ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม 44160
เกิดวันที่ 9 สิงหาคม 2533
เบอร์โทร 0823023836
อีเมล์ mod_113@thaimail.com
สี่ชอบ เขียว
อาหารที่ชอบ ส้มตำ
สัตว์เลี่ยงที่ชอบ ปลา
งานอดิเรก ฟังเพลง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)